โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม)

ห้องวิทยาการ

    ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ผศ. กอบรัตน์ เรืองผกา ผู้อำนวยการและคณะผู้บริหารโรงเรียนในสมัยนั้น ได้รับนโยบายจากรัฐบาล ให้จัดการศึกษาตามโครงการพัฒนาศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน ในการสร้างศูนย์การเรียนรู้ (Resource Center)
    ดังนั้นจึงได้จัดตั้งโครงการนำร่องการพัฒนาอัจฉริยภาพนักเรียนชั้น ป.1-3 ภายใต้ศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน โดยเน้นการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ให้กับเด็ก ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการแสวงหาความรู้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาความสามารถในด้านที่ตนเองมีความสนใจ สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น นักเรียนมีความสุขในการเรียน และเป้าหมายสูงสุดของห้องวิทยาการคือการมีส่วนร่วมในการพัฒนานักเรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข
    โดยจัดกิจกรรมภายในห้องวิทยาการ ( พ.ศ. 2541) ประกอบด้วย สื่อและกิจกรรมที่มีความหลากหลาย เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา ศิลปะ คอมพิวเตอร์และคิดสร้างสรรค์ นักเรียนชั้น ป.1-3 เข้าเรียนครั้งละครึ่งห้องเรียน 1 คาบ/สัปดาห์ ลักษณะการจัดกิจกรรมมีดังนี้
     1. กิจกรรมตามความสนใจ เป็นกิจกรรมที่เตรียมไว้สำหรับแต่ละมุม ให้นักเรียนเลือกเข้าตามความสนใจ
     2. กิจกรรมรวม เป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมทักษะหลายด้าน ในกิจกรรมเดียว เช่นเป็นกิจกรรมที่นักเรียนทุกคนทำพร้อมๆกัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อย เช่น การสอนทำลูกชุบ ทักษะที่ได้จากกิจกรรมนี้ได้แก่ ทางด้านภาษา ได้คำที่มักบอกขั้นตอนการทำงาน คือ เริ่มแรก..... จากนั้น ..... แล้ว ตามด้วย.... สุดท้าย... ส่วนในด้านวิทยาศาสตร์ การใช้สีจากดอกอัญชัน แครอท ด้านความคิดสร้างสรรค์ นักเรียนปั้นลูกชุบ เป็นรูปต่างๆ ตามจินตนาการ
     3. กิจกรรมต้นชั่วโมง เป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาสั้นๆ ก่อนที่จะทำกิจกรรมตามความสนใจ หรือกิจกรรมรวม จุดประสงค์คือ เป็นการเตรียมความพร้อมทางสมองและร่างกาย ก่อนที่จะทำกิจกรรมหลักเป็นกิจกรรมที่ฝึกความคิด ความว่องไว หรือการแก้ปัญหา เป็นต้น

ห้องศักยภาพ

ในปี 2554 ได้ย้ายมาที่ตึก 4 ชั้น 3 เปลี่ยนจากโครงการนำร่อง มาเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียน เรียกว่า ห้องศักยภาพ จัดกิจกรรมให้กับนักเรียนชั้น ป. 1-3 ชื่อว่า วิชาศักยภาพ และโครงการเสริมศักยภาพให้กับนักเรียนชั้น ป. 5-6 และได้ดำเนินโครงการส่งเสริมนักเรียนพัฒนาความสามารถพิเศษ ชั้น ป. 3-4 ทำการคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการ เพื่อพัฒนาความสามารถส่งเสริมให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษ ได้พัฒนาศักยภาพของตนได้เต็มขีดความสามารถ และเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ อีกทั้งได้เชิญผู้ปกครองมาเป็นวิทยากรในชั่วโมงศักยภาพ
ต่อมาใน 2545-2554 ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนสำหรับนักเรียนชั้น ป.1-3 และกิจกรรมชุมนุมวิชาการ ชั้น ป.4-6 ซึ่งจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจเรียน 1 คาบ/สัปดาห์ อ.ผู้สอนชุมนุมวิชาการในระดับชั้น ป.4-6 ในคาบ 7 ของวันพุธ

ห้องฉันทะ

วิชาฉันทศึกษานี้อยู่ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยท่านผู้อำนวยการ อ.นันทรัตน์ ธรรมวัฒน์ไพศาล ได้สนับสนุนให้มีการพัฒนากระบวนการเรียนรู้แนวฉันทะ ดังนั้น “ห้องศักยภาพ” ได้เปลี่ยนเป็น “ห้องฉันทะ” (อาคาร 4 ชั้น 3) มุ่งให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความพอใจ และค้นหาตนเองตามความชอบ เรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีความสุขสู่การทำงานที่ยั่งยืน โดยไม่มีการบังคับทำให้ค้นพบพลังอัจฉริยะที่แฝงอยู่ในตัวนักเรียน กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการความสามารถทางสมองผ่านการเล่นโดย ธรรมชาติมุ่งพัฒนาทักษะชีวิตและเปิดลิมบิกให้สมองก่อนการเริ่มการเรียนรู้
กิจกรรมที่เปิดลิมบิกให้สมองก่อนเริ่มการเรียนรู้ คือ การเล่นกับธรรมชาติ สวนน้ำ ต่อท่อ การไหลของน้ำ การชั่ง การตวง ปริมาตร สิ่งแวดล้อม การเล่นทราย สะพาน เขื่อน การเล่นฟองสบู่ จินตนาการ ออกกำลังกาย การทรงตัว กีฬา สันทนาการ ส่วนกิจกรรมที่พัฒนาทักษะชีวิต ได้แก่ การแสดง พิธิกร นักอ่านข่าว ฝึกทักษะทางด้านภาษา การแต่งเรื่อง การจุดประกายความคิดจากการดูหนัง สารคดี ดูขั้นตอนการทำกิจกรรม เบเกอรีทำอาหาร ทักษะเบื้องต้นในการเตรียม เก็บ ล้าง ร้านค้า การขายของ การวาดภาพเชื่อมโยงประสาทสัมผัสทั้ง 5 (ยืนวาด เท้ามั่นคง ใช้นิ้วมือจุ่มสีวาดบนกระดาน) การสร้างภาพเคลื่อนไหว จากตัวการ์ตูนหรือปั้นตัวละครผ่านเทคนิค Stop motion

ฉันทะศึกษา

    ปีการศึกษา 2557 ท่านผู้อำนวยการ รศ.สุขุมาล เกษมสุข ได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดการศึกษาสำหรับเด็กประถมว่ากระบวนการเรียนรู้แนวฉันทศึกษา จะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริงและเรียนอย่างมีความสุข ดังนั้นจึงให้จัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนที่เอื้อต่อการเรียน ท่านได้อนุมัติงบประมาณในการสร้างห้องฉันทะการเล่น (play studio) ขึ้นที่ชั้น 4 อาคารต้นแบบฉันทศึกษา เฉลิมพระเกียรติ ศรีนครินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ใน การจัดการเรียนการสอนแนวฉันทศึกษา และเอื้ออำนวยในการดำเนินกิจกรรมฝึกทักษะในวิชาพิเศษต่างๆ
    ปี พ.ศ. 2560 ท่านผู้อำนวยการ ผศ.ดร. นพดล กองศิลป์ ได้มีนโยบายส่งเสริมให้จัดการพัฒนาการเรียนรู้ฉันทศึกษา โดยสนับสนุนให้จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้พัฒนาผลงาน สร้างนวัตกรรมด้วยตนเองและสามารถนำเสนอแนวคิดได้ ท่านจึงให้การส่งเสริมในด้านการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียน วัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษาที่ทันสมัยนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน และได้ย้ายห้องฉันทะการเล่น (Play Studio) ขึ้นมาที่ชั้น 8 อาคารต้นแบบฉันทศึกษา เฉลิมพระเกียรติ ศรีนครินทร์
     การเรียนการสอนฉันทศึกษาเป็นแนวทางการจัดการศึกษาที่ยึดหลักธรรม คือ อิทธิบาท 4 อันเป็นแนวทางในการปฏิบัติหรือเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ ซึ่งหลักธรรมนี้ได้ยึดถือปฏิบัติยาวนานถึง 2560 ปี หลักธรรมอิทธิบาท 4 จึงเป็นสัจธรรมความจริงที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาตนเองได้ ในระดับประถมศึกษาเป็นวัยที่มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ หากเด็กค้นพบความสนใจของตนเองได้เร็วก็จะสามารถพัฒนาในสิ่งที่ชอบได้เร็ว และทำตามจินตนาการได้ ทำให้มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมากกว่าผู้อื่น จนอาจกลายเป็นผู้มีอัจฉริยภาพด้านนั้นๆ ในระดับมัธยมศึกษาจะเป็นวัยที่อยู่กับความฝัน พ้นจากวัยจินตนาการจะมุ่งการเรียนเพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เมื่อเด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า และเด็กคืออนาคตของชาติแล้ว การเตรียมเด็กให้พร้อมสำหรับอนาคต จึงเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ฉันทศึกษาเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กมีทักษะชีวิตพร้อมสำหรับอนาคตในการพัฒนาประเทศและดำรงตนอยู่ได้ แม้มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมโลก

ห้องวิทยาการ

ห้องศักยภาพ

ห้องฉันทะ

ฉันทะศึกษา

ติดต่อโรงเรียน

จำนวนผู้เข้าชม